ตอนที่ 58 " มะระชุปไข่ทอดกรอบ อร่อยแต่ไม่ขม"

ส่วนผสมและอุปการณ์ • ไขไก่ 1-2 ฟอง • แป้งข้าวโพด ใช้ผสมกับไข่ไก่ 1 ช้อนโต๊ะ • มะระ 1-2 ลูก หรือตามแต่สมาชิกในบ้าน วิธีทำ 1. หั่นมะระออกเป็นแว่นๆ และไม่ควรหั่นหนาเกินไป 2. นำไส้ในของมะระออกให้หมด 3. จากนั้นนำไปล้างน้ำให้สะอาดหรือจะแช่เกลือก็ได้เพื่อไม่ให้มะระขมมาก 4. จากนั้นเรามาตอกไข่ใส่ชาม ผสมแป้งข้าวโพดแล้วตีให้เข้ากัน 5. จากนั้นนำมะระที่เตรียมไว้มาชุปไขที่ผสมแป้งที่เราเตรียมไว้ 6. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่มะระชุปไขลงไป รอจนเหลืองสุขกรอบจนเข้าที่ ขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก การลงมือทานนั่นเอง นี่แหละคือหนึ่งเมนูที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ (ขอบคุณบทความดีๆจาก 108health.com) ประโยชน์ของมะระ ก็อย่างที่โบราณเค้าว่ากันว่า หวานเป็นลมขมเป็นยา สิ่งที่น่าคิดก็คือ ทำไมของที่มีประโยชน์ส่วนใหญ่มักจะมีรสชาติที่ไม่น่ารับประทาน ไม่อร่อยลิ้นเอาเสียเลย ก็อย่างเช่นเจ้ามะระนี่หล่ะค่ะ ที่มีรสชาติขมซะจนไม่อยากจะรับประทาน ภายใต้หน้าตาที่อัปลักษณ์ของมัน ถึงเวลาแล้วที่เราจะหันมาปฏิวัติการกินเสียใหม่ ชาวเอเซียรู้จักกันดีถึงสรรพคุณของมะระ แต่ชาวฝั่งตะวันตกกลับกลัวที่จะกินมัน ทั้งที่ยังไม่รู้ประโยชน์ที่แสนจะอัศจรรย์ของมันแม้แต่น้อย เรามาดูประโยชน์ของมะระกันเลยดีกว่านะคะ อย่างแรกเลย คือ ความขมของมะระนั้นสามารถช่วยให้เราเจริญอาหาร เพราะสารขมที่อยู่ในมะระนั้นจะช่วยกระตุ้นให้น้ำย่อย ออกมามากจึงทำให้รับประทานอาหารได้มากขึ้น ซึ่งเราอาจจะนำมะระไปลวก หรือเผาไฟจิ้ม แล้วนำมาจิ้มกับน้ำพริกก็ได้นะคะ ต่อมา..ก็คือ คุณสมบัติในการการบำบัดและรักษาโรคเบาหวานระยะเริ่มต้นด้วยสารอาหารในมะระ ซึ่งทำหน้าที่เพิ่มเบต้าเซลล์ในตับอ่อน โดยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างอินซูลิน (ฮอร์โมนควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด) อีกทั้งมะระยังมีเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต สารอาหารจะผสมอยู่ในรูปของโปรตีน ซึ่งสามารถบรรเทาอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากโรคตับและโรคเบาหวานได้ มะระยังสามารถแก้โรคตับอักเสบ ปวดหัวเข่า ม้ามอักเสบได้ค่ะ โดยรับประทานมะระดิบเป็นประจำจะช่วยได้ค่ะ นอกจากนี้มะระยังมีคุณค่าทางอาหารมากมาย เพราะอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี วิตามินบี๑ - บี๓, เบต้าแคโรทีน, ไฟเบอร์, ธาตุเหล็ก, โพแทสเซียม, เป็นต้น เมนูอาหารจากมะระ ได้แก่ ต้มจืดมะระยัดไส้, มะระต้มจับฉ่าย, ผัดะมะระหมูสับ, มะระผัดกุ้ง, มะระผัดน้ำมันหอย เป็นต้น หากจะลดความขมของมะระต้องลวกหรือต้มนานๆ โดยคลุกเคล้ากับเกลือก่อนที่จะนำไปปรุง หรือต้มน้ำแล้วเทน้ำทิ้ง ๑ ครั้ง ก่อนนำมารับประทาน จะช่วยให้กินมะระได้อย่างสบายใจ แถมท้ายอีกนิดด้วย ข้อควรระวัง เราทานมะระที่ดิบๆ กันได้ แต่ห้ามรับประทานมะระที่มีผลสุกนะคะ เพราะอาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียนได้ เนื่องจากมีสารซาโปนินอยู่มากซึ่งสารนี้จะทำให้เป็นพิษต่อร่างกาย อีกอย่างอย่าทานมะระมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ท้องเสีย เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาระบาย โอโห้!!! ไม่น่าเชื่อเลย ว่ามะระที่มีรสชาติที่ขม ไม่น่ารับประทาน ที่ใครหลายคนไม่ชอบรับประทานกันนั้น จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายจนเราคาดไม่ถึงขนาดนี้ ดังนั้นเราควรจะหันมารับประทานมะระกันบ้าง จะได้มีสุขภาพที่ดีกันนะคะ ที่มา www.junjaowka.com ข้อมูลจาก : คุณก่อกฤต ถกลสาครรัตน์ รวบรวมข้อมูล : น้องโอแกน กฤตบุญ ถกลสาครรัตน์